แผลแบบไหนควรให้แพทย์ดูแล? | อ้อมกอดคลินิก ลำปาง
แผลแบบไหนควรให้แพทย์ดูแล? รู้ไว้ก่อนแผลจะลุกลาม
แม้ว่าแผลเล็ก ๆ บางชนิดจะสามารถดูแลเองที่บ้านได้ แต่ยังมีแผลอีกหลายประเภทที่ไม่ควรเสี่ยงรักษาเอง เพราะอาจนำไปสู่การติดเชื้อ แผลเรื้อรัง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่รุนแรงได้
1. แผลที่มีขนาดใหญ่หรือแผลลึก
แผลที่มีความลึกจนถึงชั้นกล้ามเนื้อหรือมีขนาดกว้างมาก อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือการเสียเลือดมาก แผลประเภทนี้ควรให้แพทย์ประเมินระดับความลึก ประเมินเส้นเลือด เส้นประสาทที่อาจได้รับผลกระทบ และทำการเย็บหากจำเป็น
2. แผลที่มีอาการติดเชื้อ
สัญญาณของแผลติดเชื้อ ได้แก่ แผลบวม แดง ร้อน เจ็บ และอาจมีหนองไหล หากไม่รีบรักษาอาจลุกลามไปยังเนื้อเยื่อรอบข้าง หรือรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือดได้ จำเป็นต้องได้รับยาฆ่าเชื้อ และอาจต้องทำแผลโดยมืออาชีพทุกวัน
3. แผลเรื้อรังที่ไม่หายภายใน 2 สัปดาห์
แผลที่ไม่ดีขึ้นภายใน 10-14 วัน อาจเป็นสัญญาณว่าแผลกำลังเข้าสู่ภาวะเรื้อรัง เช่น แผลเบาหวาน แผลกดทับ หรือแผลที่มีการไหลเวียนเลือดไม่ดี ซึ่งต้องได้รับการดูแลพิเศษร่วมกับการปรับพฤติกรรมหรือภาวะโรคเรื้อรังที่เป็นสาเหตุ
4. แผลในผู้ป่วยเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงต่อแผลเรื้อรังมากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี และภูมิคุ้มกันต่ำ แผลเพียงเล็กน้อยอาจลุกลามจนถึงขั้นต้องตัดนิ้วหรือตัดเท้าได้ จึงควรพบแพทย์ทันทีเมื่อพบแผลที่เท้า หรือแผลอื่น ๆ ที่ไม่หาย
5. แผลหลังผ่าตัด หรือแผลที่ต้องตัดไหม
แผลผ่าตัดจำเป็นต้องดูแลอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และให้แผลปิดสนิทสวยงาม หากไม่มั่นใจในการดูแล ควรให้แพทย์หรือพยาบาลเป็นผู้ล้างแผลและตัดไหมเมื่อครบกำหนดอย่างถูกวิธี
6. แผลจากอุบัติเหตุ เช่น ถูกตะปูตำ แผลเหวอะหวะ
แผลเปิดจากอุบัติเหตุอาจมีสิ่งสกปรกฝังในผิวหนัง เช่น ดิน สนิม ฝุ่น ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อบาดทะยัก ควรรีบล้างแผลโดยมืออาชีพ และพิจารณาฉีดวัคซีนบาดทะยักหากยังไม่ได้ฉีดในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา
7. แผลที่มีอาการผิดปกติ เช่น แผลไม่เจ็บเลยในผู้ป่วยเบาหวาน
แผลที่ไม่มีอาการเจ็บเลยอาจฟังดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่ในผู้ป่วยเบาหวานมักเกิดจากการสูญเสียความรู้สึก ซึ่งแสดงว่ามีความเสียหายของเส้นประสาท และแผลประเภทนี้มักหายช้า ต้องได้รับการประเมินความเสี่ยงจากแพทย์ทันที
8. แผลที่มีสิ่งแปลกปลอมฝังอยู่
ไม่ควรพยายามเอาเศษแก้ว สนิม หรือวัตถุแปลกปลอมออกจากแผลเอง เพราะอาจทำให้บาดแผลลึกขึ้นหรือมีการบาดเส้นเลือด แพทย์จะใช้เครื่องมือปลอดเชื้อในการเอาออก และประเมินความเสียหายโดยรอบ
9. แผลของผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้รับยากดภูมิ หรือผู้ติดเชื้อ HIV แผลอาจติดเชื้อได้ง่ายและหายช้ากว่าปกติ ควรได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
10. แผลที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการสมาน เช่น VAC
แผลบางชนิดที่เป็นโพรง ลึก หรือมีการหลั่งสารคัดหลั่งมาก อาจต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ เช่น เครื่องดูดสุญญากาศ (VAC) เพื่อช่วยให้แผลแห้งและปิดได้เร็วขึ้น ต้องทำภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น
สรุป
แผลทุกชนิดควรได้รับการประเมินว่าเป็นแผลธรรมดาที่ดูแลได้เอง หรือควรให้แพทย์เป็นผู้ดูแล เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การลุกลาม หรือภาวะแทรกซ้อนระยะยาว หากไม่แน่ใจ อ้อมกอดคลินิก ลำปาง พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลล้างแผล ตัดไหม หรือส่งต่อในกรณีที่จำเป็น
📞 สนใจทำแผล หรือตรวจแผลโดยแพทย์
โทร: 099-025-4598
แผนที่: อ้อมกอดคลินิก ลำปาง
แผลควรพบแพทย์, แผลลึก, แผลติดเชื้อ, แผลเรื้อรัง, ตัดไหม, แผลเบาหวาน, ล้างแผลลำปาง, คลินิกลำปาง, อ้อมกอดคลินิก